จีนตรวจเข้มสินค้ากระทบกองเรือแม่นํ้าโขง

ทางการจีนคลอดมาตรการตรวจเข้ม สินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลทำให้ออร์เดอร์สินค้าไทยที่ใช้ช่องทางดังกล่าวลดฮวบ ล่าสุดกองเรือพาณิชย์แม่น้ำโขงจอดนิ่งนานกว่าสัปดาห์แล้ว ด้านนายด่านศุลกากรเชียงแสนมั่นใจ ไม่กระทบยอดการค้ารวมทั้งปี

ผู้สื่อข่าว”ฐานเศรษฐกิจ” ประจำจังหวัดเชียงราย รายงานว่า สัปดาห์ที่ผ่านมากองเรือพาณิชยนาวี ที่ขนส่งสินค้าในแม่น้ำโขง เกิดภาวะชะงักงันจนต้องจอดนิ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลตำบลเยง อำเภอเชียงแสนเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบกับผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกสินค้าที่อำเภอเชียงแสน พบว่า เกิดปัญหากับสินค้าบางประเภท โดยเฉพาะสินค้าไก่สดแช่แข็ง สุกรมีชีวิต โคมีชีวิต ที่ไม่สามารถขนส่งสินค้าได้ เนื่องจากผู้ประกอบการจีนได้ชะลอการนำเข้า เพราะว่าขณะนี้ทางการจีนได้เพิ่มมาตรการในการตรวจสอบที่มาของสินค้าว่า มีต้นทางในการผลิตที่ในประเทศสหภาพเมียนมาและสปป.ลาวจริงหรือไม่ หากพบว่ามีการสำแดงที่มาของสินค้าไม่ถูกต้อง ทางการจีนจะกักไม่ให้นำเข้าสินค้าดังกล่าวให้ออกไปสู่ท้องตลาด หากว่าจะดำเนินการต่อ ต้องถูกจัดเก็บภาษีการนำเข้าและภาษีภายในประเทศในอัตราที่สูง จึงทำให้ผู้ประกอบการในประเทศจีน ต้องชะลอการนำเข้าไปก่อน และไม่มีการสั่งซื้อสินค้ามาเพิ่มเติม

สินค้าไทยส่งออก

“แม้ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ประกอบการจีนกับทางการจีน แต่ผู้ประกอบการไทยก็มีผลกระทบตามไปด้วย เนื่องจากว่าสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย ทำให้เสียโอกาสที่จะส่งออกสินค้า เพื่อเป็นรายได้ให้กับประเทศ หากว่าสถานการณ์ยังคงเป็นอยู่เช่นนี้ ผู้ประกอบการไทยก็หนีไม่พ้นที่จะขาดรายได้ไปด้วยโดยปริยาย” แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกสินค้าที่อำเภอเชียงแสน ระบุ

ด้านนายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงเรื่องเดียวกันนี้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางด่านศุลกากรคงเข้าไปช่วยเหลือลำบาก เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ประกอบการจีนกับทางการจีน ซึ่งต่างฝ่ายมีเป้าหมายที่ขัดแย้งกัน ผู้ประกอบการก็ต้องการกำไรสูงสุด ทางการจีนก็ต้องการจัดเก็บภาษีให้เป็นรายได้ของรัฐสูงสุดเท่าที่จะทำได้เช่นกัน ซึ่งหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีขาเข้าของทุกประเทศ ก็คงไม่ต่างกับจีน ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการไทย ที่ตลาดจีนอาจจะหายไปในช่วงนี้ ก็เป็นผู้ประกอบการที่จะต้องขยายตลาดของตนเองไปยังประเทศอื่นที่มีกำลังซื้อ โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียใต้ หรือประเทศเพื่อนบ้านของไทย ทั้งสหภาพเมียนมาและ สปป.ลาว ซึ่งยังสามารถขยายตลาดได้อีกมาก

“ถามว่าจะกระทบกับภาพรวมการค้าชายแดนของเชียงแสนหรือไม่ ก็คงมีบ้าง เพราะสินค้าที่กำลังมีปัญหา มีมูลค่าการส่งออกสูงพอสมควร แต่ว่าเป็นเพียงไม่กี่ชนิดที่มีการซื้อขายกันอยู่ในตลาด โดยในปีงบประมาณ 2558 มูลค่าการค้ารวมทั้งการนำเข้าและส่งออก เมื่อเปรียบเทียบกับปีงบประมาณ 2557 มีอัตราการขยายตัวในระดับที่น่าพอใจ คือ ขยายตัวประมาณ 10% และที่สำคัญการจัดเก็บภาษีการนำเข้าของด่านศุลกากรเชียงแสนปีนี้ สามารถจัดเก็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป้าที่กรมศุลกากรให้มาประมาณ 40 ล้านบาท แต่ด่านศุลกากรเชียงแสนสามารถจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายเกิน 1 เท่าตัว คือ เก็บได้มากกว่า 100ล้านบาทแล้ว” นายด่านศุลกากรเชียงแสน กล่าว

ขอขอบคุณ ::  ฐานเศรษฐกิจ

You may also like...

error: Content is protected !!