• ไม่มีหมวดหมู่

แบงก์กรุงเทพเข้าคิวพบ กสทช.

ซีอีโอเอไอเอสแจงพนักงานเหตุซื้อคลื่นแพง

กสทช.เตรียมเรียก “ชาติศิริ” แบงก์กรุงเทพให้ข้อมูล หลังแจส โมบายโบ้ย แจ้งว่าจะไม่ออกแบงก์การันตีให้ล่าช้า ทำให้เสียโอกาสเจรจารายอื่น คิวต่อไปเป็นแบงก์และพันธมิตรจีน แฉแจสรู้ตัวว่าหมดปัญญาจ่ายตั้งแต่ 7 มี.ค. แต่เงียบกริบ ด้านซีอีโอเอไอเอสแจงพนักงานเหตุรับซื้อคลื่นแจสแทน ทั้งที่เคยบอกว่าแพงไป

นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับฟังการชี้แจงจากนายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด กรณีไม่นำเงินมาชำระค่าประมูล 4 จี คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ วงเงิน 75,654 ล้านบาทนั้น พบว่ามีข้อมูล และเอกสารหลักฐานจำนวนมาก จึงตั้งคณะทำงานชุดย่อยออกเป็น 3 ชุด ได้แก่

  1. คณะทำงานพิจารณาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากแจส โมบายไม่มาชำระเงิน
  2. คณะทำงานด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
  3. คณะทำงานตรวจสอบพฤติกรรมของผู้คนเข้าประมูลและสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งจะเน้นทำงานรวดเร็ว เนื่องจากเป็นเรื่องที่สังคมจับตามองและต้องการความชัดเจน โดยเฉพาะการคิดค่าเสียหายที่เกิดขึ้น

นายวงศ์สกุล กิติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาความรับผิดชอบกรณีแจส โมบายไม่จ่ายเงิน กล่าวว่า เมื่อรับทราบข้อมูลจากแจส โมบายแล้ว คณะทำงานต้องรอเอกสารหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร ขณะเดียวกันก็ต้องเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเป็นเอกสารหลักฐานการติดต่อตามข้อชี้แจงของแจสด้วย คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่เกิน 90 วันหรือราวเดือน มิ.ย.59 นี้ โดยคณะทำงานจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 12 เม.ย.59 นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะทำงานพิจารณาความผิดกรณีแจส โมบายไม่มาชำระเงินในวันที่ 12 เม.ย.นั้น จะเริ่มจากการเชิญผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ มาให้ข้อมูลก่อนเป็นรายแรก เพราะแจสอ้างว่าทั้งก่อนและหลังการประมูลได้หารือกับนายชาติสิริ โสภณพณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพมาตลอด และยืนยันที่จะออกหนังสือค้ำประกันทางการเงิน (แบงก์การันตี) ให้รายเดียวเท่านั้น แต่ในที่สุดก็ไม่ยอมออกแบงก์การันตีให้ และแจ้งให้แจสทราบวันที่ 20 ม.ค.นี้ ซึ่งถือว่าล่าช้า ทำให้เสียโอกาสในการไปเจรจากับพันธมิตรรายอื่นๆ

นอกจากนี้จะทำหนังสือถึงธนาคารไอซีบีซี กรณีที่ช่วยหาพันธมิตรทางธุรกิจให้กับแจสด้วย ทั้งไชน่า เทเลคอม ซึ่งได้ทำหนังสือปฏิเสธในการร่วมทุน ส่วนไชน่า ยูนิคอม และไชน่า แชริ่ง โมบาย ได้หารือกันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น รวมถึงการเจรจาหากองทุนจากปักกิ่งให้มาเป็นพันธมิตรด้วย อีกทั้งแจสทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าจะไม่สามารถหาแบงก์การันตีได้ทันตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ติดต่อ กสทช. แต่กลับไปดำเนินการซื้อหุ้นคืนจำนวน 6,000 ล้านบาท ทำให้ต้องตรวจสอบความเคลื่อนไหวของหุ้นแจสตั้งแต่วันที่ 7-21 มี.ค.59 ด้วย เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด

ด้านความเคลื่อนไหวของบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส หลังจากที่ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการ กสทช. ขอให้ กสทช.พิจารณาจัดสรรคลื่นความถี่ที่แจสไม่ได้มาชำระเงิน ให้แก่เอไอเอส (ในนามเอดับบลิวเอ็น) แทน ในราคา 75,654 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาสุดท้ายที่แจส โมบายประมูลได้นั้น ล่าสุดนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส ได้ทำหนังสือถึงพนักงานเอไอเอสชี้แจงว่า การรับซื้อคลื่นจะช่วยให้เอไอเอสดูแลลูกค้า 2 จี ซึ่งต้องเสี่ยงกับปัญหาซิมดับได้ต่อเนื่องต่อไป โดยไม่ต้องรอการประมูลซึ่งจะเกิดขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า รอเพียง กสทช.เสนอไปที่รัฐบาล เพื่อรอการอนุมัติเท่านั้น แต่เรื่องนี้มีความสำคัญและเป็นเงินจำนวนสูง นอกจากรอรัฐบาลแล้ว ยังต้องขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นด้วยเช่นกัน

ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ เอไอเอสบอกราคาคลื่นสูงไป แต่วันนี้กลับเสนอตัวรับซื้อต่อด้วยเงินจำนวนเดียวกันนั้น ขออธิบายสั้นๆว่าสถานการณ์การแข่งขันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การโอนย้ายลูกค้าตามแผนทำให้ยากลำบากกว่าที่คิด จึงต้องมีการปรับตัวภายใต้เป้าหมายคือดูแลลูกค้าเอไอเอสให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วย ว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา นายสมชัยได้เข้าหารือกับคณะกรรมการ กสทช.ถึงข้อเสนอดังกล่าว โดยเฉพาะต่อประเด็นที่เอไอเอสจะรับซื้อคลื่นแต่ กสทช.ต้องให้ใช้งานคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ต่อไป หลังวันที่ 14 เม.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้ซิมลูกค้า 2 จีของเอไอเอสต้องดับลง เนื่องจากคาดว่ากว่าจะชำระเงินได้จะใช้เวลา 2 เดือนเพราะต้องผ่านที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อน.

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณ ::  ไทยรัฐออนไลน์

You may also like...

error: Content is protected !!