ค้าชายแดนปีวอก วาดเป้า 1.5 ล้านล้านบาท

ขณะที่ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของไทยติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แต่ภาพรวมการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน กลับโตต่อเนื่องมาหลายปีติดต่อกัน โดยล่าสุดปี 2558 ตัวเลขอย่างเป็นทางการ 10 เดือน(ม.ค.-ต.ค.)แรกของปี 2558 มีมูลค่ารวม 8.26 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.97% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557

โดยการค้าชายแดนด้านประเทศมาเลเซียมีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 1 มีมูลค่า 4.03 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 48.76% ของมูลค่าการค้าชายแดนรวม รองลงมา ได้แก่ เมียนมา มีมูลค่า 1.81 แสนล้านบาท สปป.ลาว มีมูลค่า 1.38 แสนล้านบาท และกัมพูชา มีมูลค่า 1.02 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22.01 % ,16.79% และ12.44% ตามลำดับ และคาดการณ์กันว่า สิ้นปี 2558 จะมีมูลค่าการค้าชายแดนทะลุ 1 ล้านล้านบาทแน่นอน แต่หากดูตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการ มูลค่าการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านจะขยับไปที่ 1.5 ล้านล้านบาท(อ่านล้อมกรอบสัมภาษณ์ “นิยม ไวยรัชพานิช”) และตั้งเป้าปี 2559 ไว้ที่ 1.5 ล้านล้านบาทในมุมของภาครัฐ ขณะที่ภาคเอกชนแอบลุ้นตัวเลข 2 ล้านล้านบาท โดยมีเงื่อนไขว่า ได้รับแรงหนุนจากภาครัฐ และมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) เป็นตัวช่วยหนุนอีกแรง

การค้าชายแดนแม่สอด

 ค้าชายแดนไทย-เมียนมาขยายตัวต่อ

การค้าชายแดนไทย-เมียนมา ถือเป็นดาวรุ่งที่มาแรงในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยในช่วง 10 เดือน(ม.ค.-ต.ค.58) ปี 2558 มีมูลค่ารวม 1.81 แสนล้านบาท ขยายตัว 4.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีมูลค่ารวม 1.73 แสนล้านบาท

ดร.อนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงสถานการณ์การค้าชายแดนของจังหวัดเชียงรายว่า ปี 2558 การค้าชายแดนของเชียงรายเจอปัจจัยลบจากมาตรการเข้มงวดกวดขันสินค้านำเข้าของทางการจีนและเมียนมา ทำให้อัตราการขยายตัวที่เคยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 10% มาอย่างต่อเนื่องยาวนานสะดุดลง แต่ผู้ประกอบการเชื่อว่าการเปิดเออีซี น่าจะทำให้ปัญหาและอุปสรรคที่เคยเกิดขึ้นลดน้อยลงไป

“การค้าชายแดนของเชียงรายในปี 2559 มีโอกาสขยายตัวเพิ่มมากขึ้นพอสมควร นอกจากปัจจัยบวกในเรื่องของเออีซีแล้ว ทางการจีนยังมีท่าทีที่ผ่อนคลายในเรื่องของการนำเข้าสินค้าบางประเภททางชายแดน ยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพ เริ่มผ่อนคลายให้ผู้ประกอบการจีนสามารถนำเข้าข้าวหอมมะลิจากประเทศไทยผ่านทางชายแดนได้มากขึ้น แม้ว่าตัวเลขอาจจะดูไม่มาก แต่ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี”

ดร.อนุรัตน์ กล่าวและว่า หอการค้าจังหวัดเชียงราย ผลักดันเรื่องนี้มานาน และเพิ่งประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2558 ที่ผ่านมา เมื่อข้าวหอมมะลิสามารถเข้าทางชายแดนได้ ตนก็เชื่อว่าโอกาสที่สินค้าตัวอื่นๆที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าทางชายแดน ก็น่าจะมีข่าวดีตามมาด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นจะทำให้มูลค่าการค้าชายแดนรวมของเชียงรายขยายตัวได้เพิ่มขึ้นอีก

นายสันติ วิสุทธิ์ศิริ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงมูลค่าการค้าชายแดน (ไทย-สปป.ลาว ไทย-เมียนมา และไทย-จีนตอนใต้) ผ่านด่านศุลกากรทั้ง 3 แห่ง คือ ด่านศุลกากรแม่สาย ด่านศุลกากรเชียงแสน และด่านศุลกากรเชียงของ ในปี 2558 (มกราคม-ตุลาคม) มีมูลค่าการค้ารวม 3.60 หมื่นล้านบาท แยกเป็นส่งออก 3.17 หมื่นล้านบาท นำเข้า 4.29 พันล้านบาท ขณะที่ปี 2557(มกราคม-ธันวาคม)มีมูลค่าการค้ารวม 4.11หมื่นล้านบาท แยกเป็นส่งออก 3.66 หมื่นล้านบาท นำเข้า 4.57 พันล้านบาท

“ในปี 2559 จะเป็นปีแรกของการเปิดเออีซี ผมมองว่าน่าจะเป็นปัจจัยบวกกับการค้าชายแดน เนื่องจากข้อตกลงหลายประการของเออีซี ช่วยเอื้อให้การนำเข้าและส่งออกสินค้าของผู้ประกอบการสามารถทำได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น แต่ถ้าถามว่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดหรือไม่ น่าจะยังไม่ใช่ เนื่องจากดีมานด์และซัพพลายของการค้าชายแดน ยังไม่ขยายตัวมากนัก อัตราการขยายตัวที่จะเพิ่มขึ้นน่าจะเป็นเพราะประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านสามารถเข้าถึงสินค้าไทยได้ง่ายขึ้นมากกว่า” นายสันติ ระบุ

 เออีซีหนุนค้าชายแดนเพิ่ม

ด้านนายสมศักดิ์ คะวีรัตน์ จังหวัดตาก กล่าวว่า มูลค่าการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ด้านแม่สอด(ตาก)-เมียวดี จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน เมื่อมีการเปิดใช้เส้นทางแม่สอด-เมียวดี-กอกาเรก จากเดิมเคยส่งสินค้าได้ 15 วันต่อเดือน วันนี้ส่งสินค้าได้ 30 วัน ในช่วงนี้มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นเดือนละ 14-15 % ส่วนการเปิดเออีซีจะช่วยหนุนให้มูลค่าการค้าชายแดนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าการค้าชายแดนในปีงบประมาณที่ผ่านมา(ต.ค. 57-ก.ย. 58 มีมูลค่า 6.42 หมื่นล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2556-2557(ก.ย.56-ต.ค.57) ที่มีมูลค่าการค้า 5.59 หมื่นล้านบาท กว่า 1 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มในปี 2559 จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายกิตติ สุทธิสัมพันธ์ นายด่านศุลกากรแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กล่าวถึงมูลค่าการค้าชายแดนไทย-เมียนมา(แม่สอด-เมียวดี)ว่า ในเดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ต.ค.58) มีมูลค่าการค้าชายแดนด้านนี้กว่า 7.55 พันล้านบาท นับว่าเป็นมูลค่าที่สูงขึ้นมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเพิ่มมากกว่าเดือนก่อนหน้านี้ และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอีกเดือนละ 25 % ไปอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเปิดเออีซีแล้วมูลค่าการค้าชายแดน ผ่านด่านแม่สอด-เมียวดีจะเพิ่มสูงขึ้นอีก

ส่วนนางสุดาพร ยอดพินิจ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่า สรุปตัวเลขการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดระนอง-เกาะสอง ปี 2558 ในรอบ 11 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2558 มียอดการค้าโดยรวม 1.84 หมื่นล้านบาท แยกเป็นนำเข้า 5.47 พันล้านบาท ส่งออก 1.29 หมื่นล้านบาท โดยหากรวมยอดการค้าในเดือนธันวาคมที่คาดว่าจะมีตัวเลขการค้าส่งออกไม่ต่ำกว่า1.5 พันล้านบาท นำเข้าประมาณ 500 ล้านบาท จะทำให้การค้าชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดระนอง-เกาะสองในรอบ 12 เดือนปี 2558 มีมูลค่าการค้าโดยรวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าปี 2557 เล็กน้อย อาจเป็นเพราะปัจจัยด้านการเปิดด่านชายแดนใกล้เคียง คือ ด่านชายแดนสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่อาจส่งผลต่อมูลค่าการนำเข้าและส่งออกผ่านชายแดนด้านจังหวัดระนองลดลงเมื่อเทียบกับปี 2557 ที่ผ่านมา ที่มีมูลค่าการค้าชายแดนรวม 2.40 หมื่นล้านบาท ส่วนในปี 2559 คาดว่าบรรยากาศการค้าชายแดนไทย-เมียนมา จะดีในทุกด่านชายแดน อันเป็นผลจากปัจจัยการเมืองของเมียนมา และการเปิดเออีซี ในส่วนของด่านระนอง-เกาะสอง คาดว่าจะมียอดการค้าไม่ต่ำกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท

 กัมพูชามาแรงอย่างต่อเนื่อง

การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งที่เติบโตต่อเนื่อง โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2558(ม.ค.-ต.ค.58) มีมูลค่ารวม 1.02 แสนล้านบาท ขยายตัว 10.96% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มีมูลค่า 9.27 หมื่นล้านบาท

นายโสรัจ สังขวรรณ นายด่านศุลกากรคลองใหญ่ จังหวัดตราด เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดตราด ผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ ในปี 2558 (ม.ค.-พ.ย.58) มีมูลค่าการค้ารวม 2.90 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นส่งออก 2.62 หมื่นล้านบาท และนำเข้า 2.84 พันล้านบาท คาดว่าในเดือนธันวาคม 2558 จะมีมูลค่าการค้ามากถึงกว่า 2 พันล้านบาท เนื่องจากเป็นเดือนที่ชาวกัมพูชาจะสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเพิ่มขึ้นรับช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำให้คาดว่ามูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดตราด มีมูลค่าทะลุ 3.1-3.2 หมื่นล้านบาท หรือขยายตัวประมาณ 5% และนับเป็นมูลค่าเกิน 3 หมื่นล้านบาทอย่างเป็นทางการ

สำหรับแนวโน้มการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดตราด ปี 2559 จะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 8% คาดว่าจะมีมูลค่าการค้าชายแดนสูงกว่า 3.5 หมื่นล้านบาทแน่นอน เนื่องจากมีปัจจัยหลายด้านเกื้อหนุน ทั้งการที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่เออีซี และการมีเขตพัฒนาพื้นที่พิเศษจังหวัดตราด จะทำให้เกิดการค้า การลงทุนเพิ่มขึ้น อีกทั้งประเทศกัมพูชาและเวียดนามยังมีความต้องการสินค้าจากประเทศไทยอยู่มาก ทำให้ต้องการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีก

ด้านนายอุทัย ตันชัย ประธานหอการค้าจังหวัดตราด กล่าวว่า มูลค่าการค้าชายแดนของจังหวัดตราดเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 2 หมื่นล้านบาทเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 3 หมื่นล้านบาทในปี 2558 และในปี 2559 จะเพิ่มขึ้นอีกตามภาวะเศรษฐกิจของกัมพูชาและเวียดนาม ซึ่งทำให้ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น และจะทำให้มูลค่าการค้าชายแดนด้านกัมพูชาเพิ่มขึ้นอีกหลายพันล้านบาท ขณะเดียวกันด่านชายแดนอีก 2 ช่องทาง ที่บ้านมะม่วง อำเภอบ่อไร่ และบ้านท่าเส้น อำเภอเมืองตราด ซึ่งกำลังจะมีการเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรอย่างเป็นทางการ จะทำให้มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นอีก

การค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว

 สปป.ลาวเติบโตต่อเนื่อง

การค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ยังมีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2558(ม.ค.-ต.ค.58) มีมูลค่าการค้าชายแดนรวม 1.38 แสนล้านบาท ขยายตัว 12.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มีมูลค่า 1.23 แสนล้านบาท โดยการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว มีจุดผ่านแดนถาวรถึง 15 แห่ง และจุดผ่อนปรนการค้าอีก 31 แห่ง มากที่สุดเมื่อเทียบกับชายแดนด้านอื่น

นางมนนิภา โกวิทย์ศิริกุลย์ ประธานหอการค้าจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า ในปี 2558 สภาวะการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้านจังหวัดหนองคายลดลงไปจากปีก่อนหน้าประมาณ 3-4 % จากภาวะเศรษฐกิจโดยภาพรวมที่ซบเซา และขนาดของตลาดการค้าชายแดนด้านจังหวัดหนองคายเล็กลง เพราะมีแยกเป็นจังหวัดบึงกาฬ และมีการเปิดด่านถาวรชายแดนเพิ่มขึ้น

“การค้าชายแดนทางด้านนี้ อนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกมาก ในทิศทางที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากขณะนี้นักลงทุนจากประเทศจีนจำนวนมากได้เข้าไปทำธุรกิจหลายๆด้าน ทั้งการสั่งสินค้าจากประเทศจีนมาขายให้คนลาว และส่วนหนึ่งก็ทะลักเข้าสู่ประเทศไทยในรูปแบบของสินค้าดิวตี้ฟรี อีกส่วนหนึ่งลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษในหลายๆแขวงของสปป.ลาว ทั้งที่เป็นโครงการเพื่อโรงงานอุตสาหกรรมขนาดต่างๆที่เวียงจันทน์มีถึง 5 แห่ง เช่น เขตเศรษฐกิจบึงธาตุหลวง ที่มีพื้นที่มากกว่า 2 พันไร่ โดยรูปแบบเป็นเขตเศรษฐกิจสำหรับการท่องเที่ยว ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม แต่ภายในโครงการดังกล่าว จะอนุญาตให้ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น โรงแรม คอนโดมิเนียม บ้านพักอาศัยหลายระดับ อาคารสินค้า สถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า

การค้าชายแดน

 ค้าชายแดนมาเลเซียปี59ไม่สดใส

การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ปี 2558 ที่ผ่านมา เป็นการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเพียงประเทศเดียวที่หดตัวลง โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2558(ม.ค.-ต.ค.58) มีมูลค่าการค้าชายแดนรวม 4.03 แสนล้านบาท หดตัวลง 4.13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มีมูลค่า 4.20 แสนล้านบาท

นายสมพร สิริโปราณานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จากเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา และราคาน้ำมันโลกที่ตกไป ส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจมาเลเซียตามไปด้วย ในฐานะผู้ผลิตน้ำมันรายหนึ่ง ค่าเงินริงกิตตกไปประมาณ 20% ซึ่งส่งผลให้การค้าชายแดนไทย-มาเลเซียหดตัวลง รวมถึงด้านการท่องเที่ยวด้วย นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียจะใช้จ่ายประหยัดขึ้น แนวโน้มปี 2559 การท่องเที่ยวน่าจะคึกคักขึ้น ผลจากเออีซี ด้านการค้าชายแดนไม่สดใสจากค่าเงินมาเลเซียที่ตกลงไป

“เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้จัดการประชุมผู้แทนการค้า ระหว่างหอการค้าจังหวัดสงขลา และหอการค้ามาเลเซีย เพื่อเพิ่มโอกาสการค้าในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ การค้าไทย-มาเลเซีย ปี 2557 มีมูลค่า 5.07 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 51% ของการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน แบ่งเป็นส่งออก 2.74 แสนล้านบาท นำเข้า 2.32 แสนล้านบาท สินค้าส่งออก ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ ไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และส่วนประกอบ สินค้านำเข้า ได้แก่ เครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เทปแม่เหล็ก จานแม่เหล็กสำหรับคอมพิวเตอร์ สื่อบันทึกข้อมูล ภาพ เสียง เครื่องคอมพิวเตอร์และการโปรโมทสินค้าผ่านเว็บไซต์ เป็นต้น”

นับจากวันนี้จนถึงสิ้นปี 2559 ยังมีเวลาอีก 12 เดือน ที่ทั้งภาครัฐและเอกชน จะร่วมกันขจัดอุปสรรคและผลักดันมูลค่าการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านให้ทะลุ 1.5 ล้านล้านบาท และขยับไปถึง 2 ล้านล้านบาทตามที่เอกชนแอบตั้งความหวังไว้

You may also like...

error: Content is protected !!